Sabrina Carpenter นักร้องสาวมากความสามารถเจ้าของเพลงฮิตสุดไวรัล Nonsense

มาทำความรู้จัก Sabrina Carpenter นักแสดง-นักร้องสาวมากความสามารถเจ้าของเพลงฮิตสุดไวรัล “Nonsense” ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในศิลปินที่มีอิทธิพลมากที่สุดสำหรับชาว Gen Z ณ เวลานี้!!!

อีกหนึ่งศิลปินที่มีความสามารถทั้งด้านการร้องเพลงและการแสดงเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะนึกถึง Sabrina Carpenter นักแสดงเจ้าบทบาทจาก Disney Channel รวมถึงยังเป็นเจ้าของเพลงฮิตสุดไวรัลอย่าง “Nonsense” เพลงป๊อปจังหวะกลางๆ มีท่วงทํานองลื่นหู ฟังสบาย ที่กลายมาเป็นเพลงฮิตบนโลก TikTok หลังได้รับความนิยมจากเวอร์ชัน Speed Up ติดหูสุดๆ จนเธอต้องปล่อยเพลงเวอร์ชัน Speed Up นี้ลงสตรีมมิ่ง แต่ความฮอตของเพลง “Nonsense” ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะมาแรงแซงขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 ถึงอันดับ 56 และมียอดสตรีมบน Spotify มากกว่า 500 ล้านครั้งเป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งเธอคนนี้หลงใหลในการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ เริ่มอัปโหลดผลงานเพลงลง Youtube ตั้งแต่อายุเพียง 10 ปี ก่อนจะเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะนักแสดง อะไรที่ทำให้ Sabrina Carpenter ประสบความสำเร็จทั้งอาชีพนักแสดงและนักร้องจนถูกยกให้เป็นหนึ่งในศิลปินที่มีอิทธิพลมากที่สุดสำหรับชาว Gen Z เรามาทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้นกัน




จากนักแสดง Disney Channel สู่ศิลปินสาวสุดฮอตมาแรงแห่งปี

Sabrina Carpenter เริ่มต้นเส้นทางวงการบันเทิงด้วยการคว้าอันดับ 3 จากรายการแข่งขันร้องเพลง The Next Miley Cyrus Project ก่อนจะเริ่มงานแสดงด้วยบทเล็กๆ จนกระทั่งปี 2013 เธอได้แสดงซีรีส์ชื่อดังอย่าง “Girl Meets World” และได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินภายใต้สังกัด Disney Music Group’s Hollywood Records ด้วยวัยเพียง 14 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผลงานเด่นๆ อีกเช่นเรื่อง “Tall Girl” และ “Work It”

ถึงแม้ Sabrina Carpenter จะได้รับความนิยมในฐานะนักแสดง แต่เธอยังคงให้ความสำคัญกับงานเพลงมาเป็นอันดับหนึ่ง มีผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์อยู่เรื่อยๆ แต่ในที่สุดก็ได้ปล่อยผลงานซิงเกิลแรกเป็นของตัวเองออกมาในปี 2014 มีชื่อว่า “Can’t Blame a Girl for Trying” พร้อมแจ้งเกิดแบบปังในฐานะศิลปินอย่างเต็มตัว



Swifty ตัวยงที่ได้เล่นเปิดคอนเสิร์ต The Eras Tour ของ Taylor Swift

Sabrina Carpenter คงเป็นแฟนคลับที่ประสบความสำเร็จที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเธอเป็น Swifty ตัวยงมาโดยตลอดและเมื่อปี 2010 เธอเคยทวีตของความว่า คอนเสิร์ตของ Taylor Swift สุดยอดมากๆ และเธอสนุกสุดๆ สักวันนึงเธออยากมีทัวร์แบบ Taylor บ้าง แต่ใครจะคิดว่าอีก 10 กว่าปีต่อมาเธอจะได้เล่นเปิดคอนเสิร์ต The Eras Tour ให้กับ Taylor Swift ทั้งในประเทศสิงคโปร์, ออสเตรเลีย และประเทศในแถบละตินอเมริกา เป็นแฟนคลับที่น่าอิจฉาสุดๆ ไปเลย!





เริ่มต้นเส้นทางดนตรีตั้งแต่ 2014 ปัจจุบันมีผลงานเพลงทั้งหมด 7 อัลบั้ม

อย่างที่เล่าไปก่อนหน้านี้ว่า Sabrina Carpenter จะเริ่มเป็นที่รู้จักจากผลงานการแสดงแต่เธอก็รักการร้องเพลงมากเช่นกัน แถมยังเคยให้สัมภาษณ์ว่าดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอตั้งแต่วันแรก ซึ่งปัจจุบันนักร้องสาวมากความสามารถคนนี้มีผลงานเพลงถึง 7 อัลบั้มตลอดระยะเวลากว่า 9 ปีที่เริ่มเข้าสู่เส้นทางดนตรี

Eyes Wide Open (2015) อัลบั้มสไตล์ทีนป๊อปแฝงด้วยกลิ่นอายป๊อปร็อกและโฟล์ค มีเนื้อหาเกี่ยวกับมิตรภาพของเพื่อน ความรัก และชีวิตวัยรุ่นของเธอช่วงนั้น ถึงแม้จะเป็นอัลบั้มแรกแต่ก็สามารถเปิดตัวบนชาร์ต Billboard 200 ได้สูงถึงอันดับที่ 43 และอยู่บนชาร์ตยาวนานต่อเนื่องถึง 4 สัปดาห์เลยทีเดียว

EVOLution (2016) อัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ที่มีซิงเกิลฮิตอย่าง “Thumbs” เพลงแนวอิเล็กโทรป๊อป ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการยอมรับการเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งเพลงนี้มียอดวิวมากกว่า 244 ล้านครั้งบน Youtube ไม่เพียงเท่านั้น! ยังมีทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกในชีวิตกับ EVOLution Tour ที่ประเทศอเมริกา, แคนาดา และยุโรป

Singular: Act I & Act II (2018-2019) อัลบั้มเต็มชุดที่ 3-4 ของ Sabrina Carpenter สะท้อนมุมมองที่โตขึ้นมาพร้อมเพลงฮิตอย่าง “Sue Me” พูดถึงการก้าวออกจากความสัมพันธ์ที่ Toxic แบบไม่แคร์อะไรและเพลง “Looking at Me” ที่บ่งบอกถึงความมั่นใจของเธออย่างแท้จริง หลังจากนั้นเธอได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ Island Records และได้ปล่อยซิงเกิลแรกภายใต้บ้านใหม่อย่างเพลง “Skin” และเป็นเพลงแรกในชีวิตของเธอที่ติดชาร์ต Billboard Hot 100 อันดับที่ 48

emails i can't send (2022) อัลบั้มเต็มชุดที่ 5 ที่มีซิงเกิลก่อนหน้าไม่ว่าจะเป็น “Skin”, “Vicious” และ “Fast Times” อัดแน่นไปด้วย 13 เพลงที่ Sabrina Carpenter เขียนเก็บเอาไว้เป็นข้อความในอีเมลช่วงโควิดเรื่องราวที่เป็นเหมือนการเยียวยาจิตใจตัวเองในช่วงนั้น ทําให้เนื้อเพลงที่เขียนออกมามีความเป็นธรรมชาติและซื่อตรง จุดนี้น่าจะทำให้อัลบั้ม emails i can't send ได้รับความสนใจจากแฟนๆ จนสามารถติดชาร์ต Billboard 200 ด้วยอันดับที่ 23 ซึ่งเป็นอันดับที่สูงที่สุดในชีวิตของเธอ แต่เพลงที่มาแรงในอัลบั้มก็คือ “Nonsense” แทร็คลําดับที่ 9 ที่ไม่ได้ถูกจัดมาเป็นซิงเกิลในช่วงแรกด้วยซ้ํา ก่อนจะปล่อยอัลบั้ม emails i can't send fwd: (2023) ที่มีเพลงใหม่ 4 เพลงพร้อมโฟกัสแทร็คเริ่ดๆ อย่าง “Feather”

fruitcake (2023) ต้อนรับช่วงเทศกาลคริสต์มาสด้วย EP สุดอบอุ่นอย่าง “fruitcake” ประกอบไปด้วย 6 เพลงที่ฟังแล้วรู้สึกได้ถึงความอุ่นราวกับขนมอบใหม่ที่เพิ่งออกตากเตา



และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ Sabrina Carpenter ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่น่าจับตามอง ด้วยแนวทางการทำเพลงที่เป็นเหมือนกับตัวแทนเสียงของคน Gen Z เพราะนอกจากเพลงจะพูดถึงเรื่องราวทั่วๆ ไปอย่างความรัก ความเจ็บปวด และการค้นพบตัวเอง ยังหยิบจับเอาประเด็นทางสังคม เช่น สิทธิ์ของ LGBTQ มาเล่าได้อย่างเป็นธรรมชาติและตรงไปตรงมา นับว่าเป็นศิลปินสาวมากความสามารถอย่างแท้จริง

ติดตามความเคลื่อนไหวของ “Sabrina Carpenter” ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/sabrinacarpenter 
Instagram : www.instagram.com/sabrinacarpenter 
Twitter : https://twitter.com/sabrinaannlynn 
Youtube : www.youtube.com/sabrinacarpenter 
TikTok : www.tiktok.com/@sabrinacarpenter 

ขอบคุณข้อมูลจาก : Universal Music Thailand / www.sanook.com

ขอบคุณรูปภาพจาก : www.facebook.com/sabrinacarpenter