Lana Del Rey ศิลปินสาวเจ้าเสน่ห์ ผู้เป็นพระแม่แห่งวงการเพลง Sadcore
Elizabeth Woolridge Grant คือชื่อจริงของ Lana Del Rey ศิลปินสาวเจ้าเสน่ห์ที่ถูกขนามนามว่าเป็นพระแม่แห่งวงการเพลง Sadcore เพราะทั้งบทเพลงและคาแรกเตอร์ช่างดึงดูดใจเหล่า Sad Girls อย่างแรง
หากวันไหนที่คุณอยากล่องลอยไปกับซาวด์ดนตรีฟุ้งๆ แนะนำให้ลองเปิดเพลงของ Lana Del Rey นักร้องสาวที่ผลิตผลงานคุณภาพออกมามากมายตลอด 13 ปี รับรองว่าคุณจะถูกดึงให้จมลงไปในเรื่องราวของเนื้อเพลงเศร้าหม่นแบบไม่รู้ตัว และฉุดให้ดำดิ่งลงไปอีกขั้นด้วยโทนเสียงต่ำอันล่องลอยที่เป็นเอกลักษณ์ยากจะหาใครเลียนแบบได้ ความสามารถทางด้านดนตรีที่เหนือชั้นของเธอโดดเด่นจนนิตยสาร Rolling Stone UK ยกย่องให้เป็นนักแต่งเพลงชาวอเมริกันที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งคริสต์ศตวรรษ 21 เลยทีเดียว เธอเริ่มเข้าสู่เส้นทางดนตรีตั้งแต่อายุ 18 ปี ด้วยการเข้าร่วมประกวดแต่งเพลงที่ถึงแม้จะไม่ชนะ แต่ความสามารถก็ฉายแววทำให้ได้เข้ามาอยู่ในค่ายเพลงอินดี้เล็กๆ ก่อนจะเปล่งประกายจากความสามารถและความมุ่งมั่นของตัวเอง ทำให้เพลงของเธอเป็นที่ชื่นชอบไปทั่วโลก ขึ้นชาร์ตอันดับต้นๆ และผลงานมากมายได้รับรางวัล
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่หลงเสน่ห์สาว Lana Del Rey เข้าแล้ว ลองมาทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นอีกนิดในฐานะพระแม่แห่งวงการเพลง Sadcore ผู้เป็นเหมือนไอคอนของเหล่า Sad Girls รับประกันเลยว่าต้องมีอย่างน้อยสักหนึ่งเพลงของเธอที่แทรกซึมเข้ามาอยู่ในใจของคุณ
“Video Games” ผลงานเพลงเปลี่ยนชีวิตของ Lana Del Rey
ก่อนที่ชื่อ Lana Del Rey จะเป็นที่รู้จักเธอเคยใช้ชื่อ Lizzy Grant ในการปล่อยเพลงมาก่อน ซึ่งผลงานเพลงของเธอก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่ปล่อยออกมา กระทั่งปี 2011 เธอได้อัปโหลดมิวสิกวิดีโอโฮมเมดกลิ่นอายวินเทจที่ใช้ฟุตเทจหนังเก่าอย่างเพลง “Video Games” บนช่องยูทูปของตัวเอง หลังจากนั้นไม่นานเพลงนี้ก็กลายเป็นไวรัลไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยวิธีการร้องเสียงโทนต่ำเคล้าความเศร้า มีความโหยหวนที่ฟังแล้วชวนใจหวิว นับเป็นการนำเสนอผลงานที่มีความแปลกใหม่หลุดจากกรอบของศิลปินคนอื่นๆ เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Lana Del Rey เป็นที่รู้จัก ก่อนจะเซ็นสัญญากับค่ายเพลง Interscope/Polydor ของเครือยักษ์ใหญ่อย่าง Universal Music
ควีนแห่งวงการเพลง Sadcore ผู้เป็นไอคอนของเหล่า Sad Girls
“Video Games” ถือเป็นใบเบิกทางให้กับ Lana Del Rey ได้มีสังกัดพร้อมปล่อยผลงานคุณภาพตามมาอีกหลายอัลบั้ม ไม่ว่าจะเป็น Born to Die ที่มีเพลงฮิตติดหูอย่าง “Summertime Sadness” ตามมาด้วยอัลบั้ม Paradise ที่ทำได้ดีจนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ ต่อด้วยอัลบั้ม Ultraviolence ที่เปิดตัวอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard 200 ขณะที่อัลบั้ม Honeymoon ก็กวาดคำชมไปอย่างล้นหลาม สตูดิโออัลบั้มถัดมาอย่าง Lust For Life ก็คงกลิ่นอายอาร์ตๆ ของเธอไว้ได้ดี ตามมาด้วยอัลบั้มชื่อแรง Norman F*****g Rockwell ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปีจากแกรมมี่ อัลบั้มต่อมา Chemtrails Over the Country Club ได้พาแฟนเพลงมาสัมผัสกลิ่นอายของป๊อปคันทรี ตามมาด้วยอัลบั้ม Blue Banisters ที่มวลรวมคือการพรรณาถึงอดีตคนรัก และอัลบั้มล่าสุด Did you know that there’s a tunnel under the Ocean Blvd ก็ยังรักษาคุณภาพไว้ได้ดีเช่นเคย
Lana Del Rey ดึงดูดผู้ฟังให้หลงใหลไปกับเพลงของเธอด้วยเนื้อหาแสนหม่น ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวของความรัก แต่ยังมีเรื่องความซับซ้อนของความสัมพันธ์ และชีวิตอันไร้จุดหมาย ถ่ายทอดผ่านเสียงร้องโทนต่ำที่เป็นเอกลักษณ์ มีจุดร่วมกันคือความรู้สึกล่องลอย กลิ่นอายวินเทจ ซึ่งเธอยังคงรักษาสไตล์นี้เอาไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา จนได้รับการขนานนามว่าเป็นควีนแห่งวงการเพลง Sadcore และกลายเป็นไอคอนของเหล่า Sad Girls
เข้าชิงรางวัล GRAMMYs ประจำปี 2024 ทั้งหมด 5 สาขา
เรียกได้ว่าผลงานโดดเด่นเข้าตากรรมการจนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบนเวที GRAMMYs มาตลอดตั้งแต่ปี 2014 รวมทั้งหมด 6 ครั้ง แต่ปีนี้ปังกว่าเดิม! จะบอกว่า Lana Del Rey เป็นลูกรักเวทีประจำปีนี้ก็ไม่เกินจริง เพราะมีชื่อเข้าชิงถึง 5 สาขารางวัลเลยทีเดียว
1. รางวัล Album Of The Year ผลงานอัลบั้ม Did you know that there's a tunnel under Ocean Blvd
2. รางวัล Song Of The Year ผลงานเพลง A&W
3. รางวัล Best Alternative Music Album ผลงานอัลบั้ม Did you know that there's a tunnel under Ocean Blvd
4. รางวัล Best Alternative Music Performance ผลงานเพลง A&W
5. รางวัล Best Pop Duo/Group Performance ผลงานเพลง Candy Necklace Feat. Jon Batiste
งานประกาศรางวัล GRAMMYs 2024 จะขึ้นในวันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ มาร่วมลุ้นให้เธอกวาดรางวัลกลับบ้านครบทุกสาขา ให้สมกับที่เธอพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง ตั้งใจผลิตผลงานคุณภาพออกมาให้แฟนเพลงอย่างเราได้ติดตามฟังกันอย่างต่อเนื่องตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา
หนึ่งในศิลปินเดี่ยวที่มีชื่อเป็น Headline ของเทศกาล Coachella 2024
หลังจากที่เป็นข่าวลือมาสักพัก ล่าสุด Coachella เทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่ของอเมริกาที่หลายคนตั้งตารอ ก็ได้คอนเฟิร์มแล้วว่า Lana Del Rey จะขึ้นเป็นศิลปิน Headline หรือศิลปินที่จะเป็นโชว์หลักของแต่ละวัน โดยตารางขึ้นแสดงของเธอจะเป็นวันศุกร์ที่ 12 และ 19 เมษายน เตรียมมาร่ายมนต์สะกดแฟนๆ อีกครั้งด้วยโทนเสียงต่ำที่เย้ายวนชวนฝัน นอกจากนี้ยังมีศิลปินสาวสุดจี๊ดอย่าง Doja Cat และแรปเปอร์หนุ่มชื่อดัง Tyler, The Creator ที่มาเป็น Headline ร่วมกันอีกด้วย
ติดตามความเคลื่อนไหวของ “Lana Del Rey” ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/lanadelrey
Youtube : www.youtube.com/lanadelrey
Instagram : www.instagram.com/honeymoon
TikTok : www.tiktok.com/@lanadelrey
ขอบคุณข้อมูลจาก