อาณาจักร KWANGYA ดินแดนเมืองทิพย์โลก Metaverse ของจักรวาล SMCU

อาณาจักร KWANGYA ดินแดนเมืองทิพย์โลก Metaverse ของจักรวาล SMCU

พาเปิดโลก Metaverse ของจักรวาล SMCU หรืออาณาจักร KWANGYA (광야) ดินแดนเมืองทิพย์ที่เชื่อมโยงผลงานของบรรดาศิลปินในค่าย SM Entertainment เอาไว้ด้วยกัน Culture Universe ที่ไม่ว่าใครก็สามารถร่วมแจมได้!




Metaverse (เมตาเวิร์ส) หรือพื้นที่ดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นให้เหมือนจริงโดยใช้เทคโนโลยี AR และ VR ต่อจากนี้ไปทุกคนจะเชื่อมโยงถึงกันด้วยเทคโนโลยีโลกเสมือน ให้เรามีตัวตนและใช้ชีวิตได้ทั้งสองโลก ซึ่งโลก Metaverse อาจมีการสร้างระบบนิเวศใหม่ขึ้นมา เป็นแหล่งความบันเทิงเพื่อให้คนมีปฏิสัมพันธ์กัน เช่น การสังสรรค์กับเพื่อนแม้อยู่คนละซีกโลก การชมคอนเสิร์ตบนโลกเสมือนจริง หรือแม้การซื้อขายในลักษณะเดียวกันกับ NFT บนโลกเสมือน อาศัยการแลกเปลี่ยนซื้อขายโดยใช้คริปโตเคอร์เรนซีมาเป็นสื่อกลาง

ซึ่งไอเดียการสร้างโลกเสมือนได้เข้ามามีบทบาทในวงการ K-Pop มากขึ้น จะเห็นได้จากค่ายเพลงใหญ่ๆ เริ่มมีการลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์ม Metaverse พร้อมดัดแปลงผลงานเพลง รูปถ่าย และ Avatar ของเหล่าศิลปินในค่ายให้เป็นรูปแบบ NFT เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญาของเหล่าศิลปินในอนาคตต่อไป



เช่นเดียวกับ SM Entertainment ที่ตัดสินใจรวมโลก Metaverse เข้ากับวงการ K-Pop พร้อมเข้าสู่ธุรกิจ NFT เนื่องจากต้องการผลักดันให้ K-Pop และ K-Culture ได้เป็นเลิศด้านวัฒนธรรมระดับโลก จึงต้องสร้างจักรวาลและขยายตลาดผ่านโลกเสมือนจริง โดยใช้ทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ในรูปแบบต่างๆ เช่น ศิลปิน ดนตรี มิวสิควิดีโอ และการแสดง ในการสร้าง IP ทางวัฒนธรรมที่มีศูนย์กลางอยู่ในโลกของ Metaverse ผ่านแนวคิด SMCU



SMCU หรือ SM Culture Universe จักรวาลสุดล้ำของ SM Entertainment

SMCU (SM Culture Universe) เป็นแนวคิดเกี่ยวกับจักรวาลความบันเทิงแห่งอนาคต ที่เชื่อมโยงโลกความจริงและโลกเสมือนจริงได้อย่างไร้ขอบเขต โดยจะถ่ายทอดผลงานของศิลปินในค่าย ผ่านคอนเทนต์แบบ Storytelling ที่ดึงดูดด้วยตัวละคร เรื่องราว และมุมมองต่างๆ จากการใช้สัญลักษณ์และการเปรียบเปรย เรียกได้ว่าเป็นคอนเทนต์แห่งอนาคตในรูปแบบ Metaverse ที่ค่ายมุ่งมั่นจะทำ

ซึ่งโปรเจคต์ SMCU ที่เห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุดก็คือการเดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ป Metaverse อย่าง aespa และการสร้างร่าง Avatar ของสี่สาวในโลกเสมือนจริงอีกโลกหนึ่ง หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า KWANGYA ไม่เพียงเท่านั้น SMCU ยังเป็นจักรวาลที่เชื่อมโยงผลงานของศิลปินทุกคนในค่ายเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเรื่องราวใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น ผ่านรายละเอียดขององค์ประกอบศิลป์ และนวัตกรรมล้ำๆ



อาณาจักร KWANGYA โลก Metaverse ที่รวบรวมเหล่าศิลปินไว้ภายใต้จักรวาล SMCU

SM Entertainment สร้างอาณาจักร KWANGYA ขึ้นเป็นโลกสมมุติใน SMCU (SM Culture Universe) สำหรับศิลปินในสังกัดเพื่อเชื่อมโยงเรื่องราวส่งถึงกัน และถ้าลองค้นหาความหมายของคำว่า KWANGYA (광야) จะมีคำแปลว่าเป็นที่ราบหรือทุ่งโล่ง ซึ่งก็จะตรงกับในวิดีโออินโทรที่ SM นำเสนอผ่านคลิป SMCU the Origin แต่หากลองมองจากมุมของเกิร์ลกรุ๊ป Metaverse อย่าง aespa เรื่องราวที่ได้เล่าผ่านบทเพลงของพวกเธอก็พอจะสรุปได้ว่า เป็นดินแดนสักแห่งที่ทั้งสี่สาวและเหล่า æ-aespa ต้องทำภารกิจกำจัด Black Mamba งูดำที่มาสร้างความปั่นป่วนให้โลก


ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อให้อาณาจักร KWANGYA มีความสมบูรณ์แบบ จึงจำเป็นต้องมีสถานที่ตั้งซึ่งทาง SM Entertainment ได้บอกใบ้ละติจูดและลองติจูดของเมือง KWANGYA ไว้ในมิวสิควิดีโอเพลง “Next Level” ของ aespa และเมื่อนำไปเสิร์ชในแผนที่ก็ได้รู้ว่ามันคือที่ตั้งสำนักงานแห่งใหม่ของบริษัท อยู่บริเวณเขต Seongsu, Seoul เพื่อให้กลายมาเป็นแลนด์มาร์คของ SMCU นั่นเอง และค่ายยังเคยบอกไว้อีกว่าต่อให้ไม่มีพาสปอร์ต ยูนิเวิร์สนี้ไม่ว่าใครก็สามารถร่วมแจมได้ทุกเมื่อ



แน่นอนว่าทั้งศิลปินและเหล่าแฟนคลับต่างรู้ดีว่าอาณาจักร KWANGYA เป็นดินแดนสมมุติที่อยู่ในจินตนาการ แต่ในอนาคตหากเทคโนโลยี Metaverse เป็นรูปเป็นร่างชัดเจนมากกว่านี้ เหล่าวัยรุ่นกวังยาก็อาจจะได้ไปเที่ยวเมืองทิพย์ของศิลปินค่าย SM Entertainment ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับโลก Metaverse ก็เป็นได้



aespa เกิร์ลกรุ๊ป Metaverse รุ่นบุกเบิกของ SM Entertainment ที่มี Avatar เป็นของตัวเอง

ด้วยความเชื่อมั่นของ SM Entertainment ว่าโลกอนาคตจะกลายเป็นโลกของหุ่นยนต์ และ Avatar การเดบิวต์ของเกิร์ลกรุ๊ป Metaverse อย่าง aespa จึงไม่ธรรมดา เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นของจักรวาล SMCU นอกจากจะเปิดตัวสมาชิกทั้ง 4 คนแล้ว สมาชิกในวงแต่ละคนยังมีอีกหนึ่งตัวตนอยู่ในโลกเสมือนจริง และจะมีคำว่า æ นำหน้าชื่อสมาชิกคนนั้น โดยร่าง Avatar เหล่านี้ได้ปรากฏทั้งในมิวสิควิดีโอและ Live Performance ต่างๆ ของวง ถือเป็นการก้าวกระโดดเข้าสู่โลก Metaverse ของวงการเพลง K-Pop อย่างเต็มตัว ด้วยการนำเสนอเกี่ยวกับโลกเสมือนจริงขนาดใหญ่หรือที่เรียกว่า KWANGYA ผ่านบทเพลงของ aespa นั่นเอง


ซึ่งการเล่าเรื่องราวอาณาจักร KWANGYA ผ่านบทเพลงของ aespa มาในรูปแบบของ Concept Album อันหมายถึงอัลบั้มที่แต่ละเพลงจะมีเนื้อหาต่อเนื่องกัน เริ่มจากเพลง “Black Mamba” เมื่อสาวๆ aespa พบว่า Black Mamba เป็นภัยคุกคามต่อโลก และขัดขวางการเชื่อมต่อระหว่าง aespa กับร่าง Avatar ของพวกเธอ


ตามมาด้วยเพลง “Next Level” ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยของสาวๆ aespa ในอาณาจักร KWANGYA เพื่อตามหา Black Mamba ซึ่งในมิวสิกวิดีโอนี้ทุกคนจะเห็นว่าสาวๆ ขี่ยานอวกาศเดินทางข้ามเวลา รวมถึงมีการติดต่อกับ Navis ให้ช่วยเหลือเรื่องการเดินทางเข้าสู่อาณาจักร KWANGYA


สำหรับเพลงไตเติลล่าสุดของมินิอัลบั้มแรก “Savage” จะเป็นการเล่าเรื่องต่อจาก 2 เพลงก่อนที่เหล่าสาวๆ aespa และ æ-aespa ได้รับความช่วยเหลือจาก Navis เพื่อมุ่งหน้าไป KWANGYA พร้อมปราบแม่งูสาวตัวร้าย Black Mamba


แน่นอนว่าตัวละครที่เป็นหัวใจหลักของเรื่องราวการผจญภัยครั้งนี้ นอกจากเหล่าสมาชิกและร่าง Avatar ของวงแล้ว จะเห็นได้ว่าตัวละครที่เป็นระบบ AI อย่าง Navis ก็ได้ถูกกล่าวถึงบ่อยๆ จนทำให้แฟนคลับต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หรือนี่คือสมาชิกคนที่ 5 ของวงกันนะ



Navis ผู้ช่วยเหลือที่ทำให้สี่สาว aespa และเหล่า æ ได้เดินทางเข้าสู่อาณาจักร KWANGYA

Navis หรือระบบ AI ผู้ที่คอยช่วยเหลือให้สาวๆ aespa และเหล่า æ-aespa ได้สื่อสารกันผ่านการ SYNK ยิ่งในเพลงล่าสุดอย่าง “Savage” ก็มีบทบาทในการช่วยเหลือสาวๆ จากการถูกภาพมายาของ Black Mamba ครอบงำ ซึ่งตามเนื้อเพลง Navis ได้สละชีวิตตัวเองเพื่อเปิดประตู P.O.S หรือประตูมิติที่เชื่อมระหว่างโลกแห่งความจริงและอาณาจักร KWANGYA ซึ่งผู้ที่จะเปิดได้มีเพียง Navis เท่านั้น หลังจากที่ AI สาวได้สละชีวิตลง aespa ก็ซึ้งใจมากจนต้องบอกว่า “My naevis we love U” พร้อมกับบอกว่าจะหาทางชุบชีวิตมาให้ใหม่ รวมถึงตามเก็บความทรงจำกันใหม่ ซึ่งนี่น่าจะเป็นการบอกใบ้เพลงใหม่ในซิงเกิลต่อไปหรือเปล่า? ต้องมารอติดตามกัน



ในแง่ของสตอรี่เรียกได้ว่าให้เต็มสิบไม่หัก! การนำองค์ประกอบของจักรวาล SMCU ที่มีความเป็น Sci-fi มีตัวละครทั้งร้ายและดีใส่มาในเพลงก็ไม่ได้ดูฝืนจนเกินไป กลับสร้างความแปลกใหม่ด้วยการนำเทคโนโลยีมาเชื่อมต่อกับวงการเพลง K-Pop ได้อย่างน่าสนใจ





ซึ่งศิลปินในค่ายที่ได้เดินทางไปยัง KWANGYA นอกจาก aespa ก็มีหนุ่มๆ NCT ที่คาดกันว่าใช้วิธีเดินทางผ่านความฝัน และวง EXO ในเพลง “Don’t fight the feeling” ก็มีการพูดถึงการเดินทางไปยัง KWANGYA ด้วยเช่นกัน รวมถึงในอนาคตวงอื่นๆ ในค่ายจะต้องเข้าร่วมจักรวาล SMCU และเดินทางไป KWANGYA อย่างแน่นอน แต่จะทำออกมาในรูปแบบไหนต้องรอติดตามกันให้ดี


ขอบคุณข้อมูลจาก : https://tonkit360.com / https://urbancreature.co