ทำความรู้จัก The Weeknd ศิลปินซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการเพลงโลกยุคใหม่!
เพราะกว่าจะเป็นศิลปินชั้นนำของโลกนั้นมันยาก.. มาทำความรู้จักกับ 7 เรื่องจริงของ “The Weeknd” ศิลปินซุปเปอร์สตาร์ที่ถูกขนานนามว่าเป็นเจ้าพ่อล้างชาร์จแห่งวงการเพลงในโลกยุคใหม่!!
ณ เวลานี้เราคงต้องยอมรับอย่างเต็มอกว่านักร้อง นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์เพลงชาวแคนาดาเชื้อสายเอธิโอเปียที่ชื่อว่า “Abel Makkonen Tesfaye (อาเบล แมกโคแนน เทสเฟย์)” หรือที่แฟนๆ รู้จักกันในชื่อ The Weeknd คือศิลปินที่ทรงอิทธิพลและประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้านอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งกว่า The Weeknd จะมาถึงจุดนี้ได้.. ชีวิตของเขาต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ มากมายแน่นอน The Concert เลยอยากจะมาย้อน 7 เรื่องราวของ “อาเบล” กันสักเล็กน้อย เพื่อให้เป็นเกียรติเป็นศรีให้กับสตูดิโออัลบั้มชุดใหม่ล่าสุด “Dawn FM” อัลบั้มชุดที่ 5 ที่ถูกปล่อยออกมาสดๆ ร้อนๆ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา บอกเลยว่าแฟนคลับของ The Weeknd ไม่ควรพลาด!
Abel เกิดและเติบโตอยู่ที่แคนาดาก็จริง แต่พ่อแม่ของเขาคือชาวเอธิโอเปียที่เลือกอพยพมาอยู่ที่สกาโบโรช์ รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ในช่วงยุค 80’s ซึ่งเขาอาศัยอยู่กับแม่และยายตามลำพังหลังจากที่พ่อตัดสินใจแยกทางไปตั้งแต่ยังเด็ก โดยคุณยายจะเอาใจใส่และดูแลเขาเป็นพิเศษ แถมยังชอบพาเขาไปโบสถ์ของชาวเอธิโอเปียอยู่บ่อยๆ จนกลายเป็นความรักและความภูมิใจในเชื้อสายเอธิโอเปียมากๆ ถึงขั้นแสดงมันออกมาในเพลง “The Hills” และ “The Knowing”
พออายุครบ 17 ปี Abel ก็ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน เพื่อจะได้มีเวลาทำเพลงแบบเต็มที่ร่วมกับเพื่อนสนิท “La Mar Taylor” ซึ่งตอนนี้เทเลอร์ก็ยังเป็น Creative Director ให้กับค่ายของเขาอีกด้วย โดยที่มาของชื่อ The Weeknd นั้นมาจากเขากับเพื่อนๆ ได้ออกเดินทางด้วยรถตู้ตลอด 1 สัปดาห์เต็มๆ แบบไม่กลับบ้าน แถมยังเอาที่นอนของพ่อแม่ติดมาด้วยอีก จนในช่วงธันวาคม 2010 เพลงของ Abel ที่อัปโหลดบนยูทูปของเขาในชื่อ The Weeknd ก็ได้เข้าหูแรปเปอร์ดังอย่าง “Drake” และเพราะเป็นชาวแคนาดาเหมือนกัน Drake เลยช่วยโปรโมทบนโซเชียลมิเดียตัวเองอีกด้วย จนทำให้ The Weeknd ได้ก้าวเข้าสู่วงการเพลงใต้ดินกับสไตล์เพลง Mixtapes
แม้คนจะเริ่มรู้จัก The Weeknd ผ่านอัลบั้ม House of Balloons, Thursday และ Echoes of Silence มาสักพักแล้ว แต่เส้นทางที่ Abel เข้าใกล้คำว่าซุปเปอร์สตาร์มันมาเริ่มเมื่อปี 2012 ต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับต้นสังกัด “Republic Records” ได้ร่วมโชว์งาน Coachella Music Festival, Wireless Festival และได้คัฟเวอร์เพลงดัง “Dirty Diana” ของ Michael Jackson ซึ่งเป็นศิลปินยอดดวงใจและเป้าหมายในวงการเพลงของเขาเอง
The Weeknd กลายเป็นศิลปินแถวหน้าของโลกที่ไม่ว่าจะปล่อยเพลงทั้งของตัวเองและที่ไปร่วมแจมกับศิลปินคนอื่นๆ ก็ได้เสียงตอบรับที่ดีจากแฟนเพลงทั่วโลกเสมอ ซึ่งมีเพลงฮิตมากมายที่มียอดวิวบนยูทูปสูงกว่า 100+ ล้านวิว เช่น Reminder, Earned It, Save Your Tears, Blinding Lights, Love Me Harder (Ft. Ariana Grande), Low Life(Ft. Future), Pray For Me (Ft. Kendrick Lamar) หรือ You Right (Ft. Doja Cat) แต่!! ก็ยังมีเพลงดังอีกเยอะเหมือนกันที่ฟาดยอดวิวทะลุ 1,000+ ล้านวิว เช่น The Hills (Explicit), Can’t Feel My Face, Starboy และเร็วๆ นี้ I Feel It Coming ก็คงจะแตะหลักพันล้านเช่นกัน บอกเลยว่าปั๊วะไม่ไหวเลยพ่อเอ้ย!
หลัง The Weeknd มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องร่วมๆ 4 อัลบั้ม เขาก็ได้คว้ารางวัลจากเวทีต่างๆ มากมาย เช่น อัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปี American Music Awards 2015, อัลบั้ม R&B ยอดเยี่ยม Billboard Music Awards 2016 / 2021, ศิลปิน Soul-R&B ชายยอดนิยม American Music Awards 2015 / 2020 / 2021, ศิลปินแห่งปี Juno Awards 2015 / 2016 / 2021, อัลบั้มเพลงเออร์เบินร่วมสมัยยอดเยี่ยม Grammy Awards 2016 / 2018 และศิลปินแห่งปี Apple Music Awards 2021 ซึ่งจริงๆ แล้ว The Weeknd ยังกวาดรางวัลเยอะกว่านี้อีกมากๆ สมแล้วที่เป็นศิลปินแถวหน้าของวงการเพลง
ในช่วงเข้าวงการแรกๆ นั้น The Weeknd ได้สร้างการจดจำให้แฟนๆ ด้วย “ทรงผมเดรดล็อก” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปิน Jean-Michel Basquiat ที่เขาชื่นชอบ ซึ่งแม้สัญลักษณ์และความแตกต่างที่ไม่เหมือนใครมันจะทำให้เขาตื่นมาแล้วปวดคอบ้าง.. แต่ก็ช่วยให้แฟนเพลงรู้จักเขาเพิ่มขึ้นจากสไตล์ทรงผมสุดเท่ และแม้จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่สุดท้ายเขาตัดผมทิ้งไปเมื่อปี 2016 เพื่ออัลบั้ม Starboy แต่ลุคผมสั้นก็หล่อบาดใจไม่เบาเลยล่ะ
หลายๆ คนอาจจะเข้าใจว่าค่ายเพลง XO ของ The Weeknd ที่ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2011 นั้นคงหมายถึงการกอดและจูบแบบฟีลแฟนน่ารักสดใส แต่แท้จริงแล้วควาหมายของ XO มันลึกซึ้งกว่าที่คิดไว้ซะอีก เพราะตัวอักษร X และ O หมายถึงสารเสพติดอย่าง Ecstasy และ Oxycontin นั่นเอง โอ้โห่.. ดาร์กสมกับเป็น The Weeknd จริงๆ เลย ซึ่งแฟนๆ ของเขาก็ชอบพูดคำขวัญของพวกเขาอยู่บ่อยๆ ว่า “XO ’til We Overdose”
เรียกได้ว่า.. กว่าจะมาถึงความสำเร็จนี้ได้ Abel หรือ The Weeknd ค่อนข้างผ่านประสบการณ์ชีวิตมากเยอะพอสมควร ซึ่งมันคงน่าสนใจมากๆ ถ้าในอนาคตข้างหน้าเขาจะพาตัวเองให้พุ่งทะยานสูงขึ้นกว่านี้ไปอีกหลายร้อยเท่า คล้ายๆ กับว่าเป็นการสืบทอดตำแหน่ง “ราชาเพลงป็อป” ต่อจากไอดอลที่เขาเคารพรักมาโดยตลอด
และอย่าลืมเสพย์เพลงคูลๆ ในอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 “Dawn FM” ที่มีทั้งหมด 16 เพลง โดย The Weeknd ได้ขนทัพศิลปินเบอร์ใหญ่มาร่วมฟีเจอร์ริงมากมาย เช่น Tyler the Creator, Lil Wayne, Quincy Jones, Oneohtrix Point Never รวมถึงนักแสดงอย่าง Jim Carrey ซึ่งแน่นอนว่าแนวเพลงของ The Weeknd ยังคงความโดดเด่นสไตล์ 80’s ไว้เหมือนเดิม รับรองว่าได้รับความบันเทิงครบรสแบบเต็มอิ่ม ไม่มีผิดหวังชัวร์ค่ะ
ติดตามข่าวสารของ The Weeknd ได้ที่
Website : www.theweeknd.com
Youtube : www.youtube.com/c/TheWeeknd
Instagram : www.instagram.com/theweeknd
Facebook : www.facebook.com/theweeknd
ขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพจาก :
- www.biography.com/news/the-weeknd-facts