Only Monday วงดนตรีอินดี้ร็อกมากฝีมือ เมล็ดพันธ์ุใหม่แห่งค่าย Gene Lab
จากกระแสเพลง “ได้แต่นึกถึง” ที่กวาดยอดวิวปัจจุบันสูงถึง 60 ล้านครั้ง และเคยขึ้นอันดับ 2 บน Billboard Chart มาแล้ว ส่งให้ 3 หนุ่ม Only Monday เป็นศิลปินน้องใหม่มากฝีมือจากค่าย Gene Lab ที่กำลังมาแรงที่สุดในเวลานี้!
Only Monday น้องเล็กแห่งห้องทดลองทางดนตรี Gene Lab ต้องบอกว่าเป็นวงดนตรีอินดี้ร็อกหน้าใหม่ที่กำลังมาแรงที่สุดในเวลานี้ ด้วยปรากฏการณ์ของซิงเกิลฮิตอย่าง “ได้แต่นึกถึง” เพลงที่ทำให้หลายๆ คนรู้จักกับ 3 สมาชิกอันได้แก่ ธีร์-ทีปกร คำสุรีย์ (ร้องนำ/กีตาร์) โปรด-วริศ สาระเขตต์ (เบส) และ เฟรม-คฑาวุธ ขำทอง (กลอง) ปัจจุบันกวาดยอดวิวบน Youtube ไปมากกว่า 60 ล้านครั้ง และขึ้นอันดับสูงสุดบน Billboard Thailand Songs Chart ที่อันดับ 2 รวมถึงยังเคยคว้าอันดับ 1 บนชาร์ต JOOX Top Indie มาแล้วอีกด้วย
ถึงแม้จะเป็นศิลปินน้องเล็กของค่ายแต่เรื่องฝีมือนั้นไม่ธรรมดา Only Monday ฟอร์มวงขึ้นมาด้วยเครื่องดนตรีเพียง 3 ชิ้น พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์จริงผ่านบทเพลงแห่งความเจ็บปวด จนขึ้นแท่นวงม้ามืดที่เพลงของพวกเขาค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปอยู่ในใจผู้ฟังอย่างไม่รู้ตัว อะไรที่ทำให้เพลงของ 3 หนุ่มถูกจริตนักฟังเพลงอินดี้ เรามาทำความรู้จักกับเมล็ดพันธ์ุใหม่แห่งค่าย Gene Lab วงนี้ให้มากขึ้นกันเถอะ
Only Monday วงดนตรีที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนที่มีใจรักในเสียงดนตรี
เมื่อเสียงดนตรีนำพาให้เด็กหนุ่มวัยมัธยมปลาย 3 คน ที่มีใจรักในแนวดนตรีแบบเดียวกันได้มารู้จักกัน จึงเกิดเป็นวงดนตรีประจำโรงเรียนที่มีชื่อว่า Only Monday ชื่อวงสุดเท่ที่ได้มาจากความบังเอิญ
Only Monday : พวกเรา 3 คนเรียนอยู่โรงเรียนเดียว มารวมตัวกันได้ด้วยการแนะนำของรุ่นพี่ ซึ่งเวลามีงานที่โรงเรียนก็จะให้วงพวกผมไปเล่น แล้วห้องซ้อมดนตรีห้องใหญ่ของโรงเรียนมันจะมีแค่ห้องเดียว ทำให้วงพวกผมได้คิวซ้อมแค่วันเดียวคือวันจันทร์ ก็เลยตั้งชื่อวงว่า Only Monday ไปเลย
จากวงดนตรีคัฟเวอร์เพลงสู่เมล็ดพันธ์ุใหม่แห่งค่าย Gene Lab
จะเห็นได้ว่าวงดนตรีหลายๆ วงแจ้งเกิดจากการคัฟเวอร์เพลงลง Youtube ซึ่งพวกเขาก็คือหนึ่งในวงที่ฉายแววความเก่งจากการนำเพลงดังของศิลปิน มาปรุงแต่งเป็นรสชาติใหม่ในสไตล์ Only Monday จนเข้าตาค่ายเพลงดังอย่าง Gene Lab และถูกทาบทามให้มาออดิชันแข่งขันเข้ามาเป็นศิลปินในสังกัด
Only Monday : พวกเราเริ่มจากการเล่นดนตรีกลางคืนแล้วอยากมีช่องทางในการลงเพลงของวง แต่ว่าตอนนั้นยังไม่มีความกล้ามากพอที่จะทำเพลงเป็นของตัวเอง เพราะยังไม่แน่ใจว่าเพลงของพวกเราจะไปในทิศทางไหน ก็เลยเลือกที่จะคัฟเวอร์เพลงลง Youtube แต่การคัฟเวอร์ของพวกผมจะไม่เหมือนต้นฉบับ เป็นการนำเพลงมา Re-Arrange ดนตรีใหม่ให้แตกต่างจากต้นฉบับมากที่สุด
Only Monday : หลังจากที่พวกเราคัฟเวอร์เพลงลง Youtube ได้สักพัก ก็ถูกทาบทามจาก Gene Lab ให้ลองไปออดิชัน ตอนนั้นพวกผมได้เล่นเป็นวงสุดท้ายของวัน หลังจากเล่นเสร็จ Gene Lab ก็เรียกพวกผมเข้าไปคุยว่าทำไมถึงอยากมีค่าย ทำไมถึงมาออดิชัน และคาดหวังอะไรจากค่ายเพลง ด้วยความที่ยังเด็กและไม่มีประสบการณ์อะไรมากก็เลยตอบไปแบบตรงๆ ว่าค่ายเพลงทำให้พวกผมดังได้ ซึ่งต้องบอกว่าการ ออดิชันวันนั้นเป็นประสบการณ์การเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของพวกเรา และเป็นวันเดียวกันกับที่ค่ายเลือกพวกผมเข้าไปทำงานด้วย
Gene Lab เป็นมากกว่าค่ายเพลง เพราะนี่คือครอบครัวใหญ่ของ Only Monday
เมื่อก้าวสู่การเป็นศิลปินเต็มตัวพวกเขาจึงต้องเติบโตขึ้น พร้อมมุ่งมั่นฝึกฝนเพิ่มพูนทักษะทางดนตรี ด้วยการผลักดันของค่ายเพลงที่ไม่ใช่เพียงแค่ทำให้พวกเขามีชื่อเสียงเท่านั้น ยังแนะนำให้ได้เรียนรู้ถึงการเป็นศิลปินอาชีพ จนทั้ง 3 หนุ่มเอ่ยปากว่าสำหรับพวกเขานั้น Gene Lab เป็นมากกว่าค่ายเพลงไปแล้ว
ธีร์ : ผมได้มีโอกาสไปดู Gene Lab Con ที่จัดครั้งแรก ตอนนั้นพี่โอมพูดอะไรสักอย่างผมก็จำไม่ค่อยได้เหมือนกัน (ขอโทษนะครับพี่โอม) แต่คำพูดของพี่โอมในวันนั้นมันทำให้ผมมีความรู้สึก Respect ต่อค่าย ผมรู้สึกว่าผมอยากอยู่ค่ายเพลงนี้มากๆ ชอบตรงที่ค่ายไม่ได้จำกัดกรอบศิลปิน เหมือนเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ให้ความรู้สึกเหมือนครอบครัว มันไม่ได้มีแบบแผนอะไรมาก แต่ค่ายพยายามจะโฟกัสในเรื่องเอกลักษณ์ของวงมากกว่าเท่านั้นเอง
เฟรม : สำหรับผมมันเหมือนการที่เราได้ทำในสิ่งที่เราไม่เคยคาดหวังมาก่อน พอเรามาอยู่ในจุดที่ต้องทำงานร่วมกับพี่ๆ แล้วมันเหมือนต้องโตขึ้น ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น อัดเสียง เล่นคอนเสิร์ต ซึ่งความฝันของนักดนตรีก็คือเป็นการเป็นศิลปินอยู่แล้ว พอเราได้มาทำเองแล้วมันรู้สึกว่า เออ สนุกวะ มันเหมือนได้อยู่กับครอบครัว มันเหมือนเป็นครอบครัวอีกครอบครัวนึงเลยครับ เป็นมากกว่าค่ายเพลงไปแล้วสำหรับผมนะ
โปรด : สำหรับผมพอรู้ว่าแบบจะได้เข้ามาเป็นศิลปินของ Gene Lab มันตั้งตัวไม่ทัน ฟีลแบบเราเข้ามาอยู่ในนี้แล้วหรอ ตื่นเต้นมาก การปรับตัวเราก็ต้องโตขึ้น ต้องคิดเยอะขึ้น มีการวางแผนให้ดีว่าควรจะทำอะไรต่อไป แล้วก็พยายามฝึกซ้อมให้ทักษะทางดนตรีของเราดีขึ้นด้วย
วงดนตรีอินดี้ร็อกสมัยใหม่คือนิยามที่บ่งบอกความเป็น Only Monday
อย่างที่รู้กันว่าในช่วงฟอร์มวงแรกๆ พวกเขาไม่มีความกล้ามากพอที่จะทำเพลงเป็นของตัวเอง เพราะยังไม่แน่ใจว่าเพลงของพวกเขาจะไปในทิศทางไหน แต่เมื่อได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของค่ายเพลง Gene Lab ตัวตนและเอกลักษณ์ทางดนตรีของ Only Monday ก็ชัดเจนขึ้น
Only Monday : แนวเพลงของพวกผมคืออินดี้ร็อกสมัยใหม่ จริงๆ ก่อนหน้านี้วงพวกเราไม่มีสไตล์เพลงตายตัวเลย แต่พอเข้ามาในค่ายแล้วพวกพี่เขาอยากให้พวกผมเลือกมาสักแนวนึงว่าอยากเป็นสไตล์ไหน ก็เลยนึกย้อนไปถึงวันแรกที่ได้เล่นด้วยกัน จริงๆ วันนั้นก็เริ่มต้นมาด้วยดนตรีแนวร็อก ซึ่งคำว่าร็อกในแบบฉบับของพวกผมมันไม่ได้มีแค่ร็อกอย่างเดียวอาจจะมีผสมกับแนวอื่นๆ เช่น อัลเทอร์เนทีฟ พังก์ โอลด์สคูล ผสมผสานเยอะมากก็เลยขอเรียกว่าเป็นแนวดนตรีอินดี้ร็อกสมัยใหม่ครับ
“ได้แต่นึกถึง” เป็นเพลงที่ทำให้หลายๆ คนรู้จักกับวง Only Monday
ทุกเพลงของ Only Monday ล้วนเขียนขึ้นจากประสบการณ์จริง จากทั้งของสมาชิกในวงและคนรอบตัว ซึ่งบทเพลงแห่งอารมณ์ที่ชวนด่ำดิ่งไปกับห้วงเวลาอดีตอย่าง “ได้แต่นึกถึง” ก็เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ “ธีร์” แต่งขึ้นมาจากเรื่องจริงของตัวเอง
ธีร์ : เพลงนี้ไอเดียแรกมาจากเรื่องราวของคนไกล ที่ระยะทางทำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลงไป แต่วันนึงมันเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับผม เราได้กลับไปเจอเขาอีกครั้งหลังจากที่เลิกกัน ซึ่งการเจอกันครั้งนี้ทำให้รู้ว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว ทั้งสีหน้าและแววตาของอีกฝ่ายมันไม่เหมือนเดิมไม่เหมือนตอนที่เราอยู่กับเขา ประมาณว่าเขาไม่ใช่ความรักของเราอีกแล้วมันก็เลยทำให้เราได้แค่นึกถึงอดีต ผมก็เลยกลับมารื้อเนื้อร้องทั้งเพลงออกหมดเลยแล้วก็แต่งขึ้นมาใหม่เป็นเวอร์ชันปัจจุบัน
นอกจากเนื้อหาเพลงจะเศร้าแล้วมิวสิกวิดีโอก็สื่อออกมาได้ขยี้คนมีอดีตสุดๆ ทำให้ใครหลายต่อหลายคนดูแล้วหวนนึกถึงความทรงจำที่เคยมีความหมายกับตัวเองขึ้นมา ไม่แปลกเลยที่เพลงนี้จะขึ้นแท่นเพลงร็อกอินดี้สุดฮิตติดชาร์ตแบบต่อเนื่อง
ตอกย้ำตัวตนและฝีไม้ลายมือทางดนตรีด้วยซิงเกิลใหม่ “ทิ้งไป”
อีกหนึ่งเพลงของ Only Monday ที่มีเรื่องราวมาจากประสบการณ์จริงของคนใกล้ตัว กับเนื้อหาที่ออกไปทางประชดชีวิตรักนิดๆ พวกเขาเติมสีสันทางดนตรีลงไป ด้วยการหยิบเอาความเป็นอัลเทอเนทีฟมาผสมผสานกับโอลด์สคูลร็อก จึงเกิดเป็นแนวดนตรีที่มีความแปลกใหม่น่าสนใจ แถมยังเป็นเพลงที่สมาชิกในวงชอบมากที่สุดในบรรดาทุกเพลงที่ปล่อยออกมาด้วย
ธีร์ : ไอเดียเพลงนี้ได้มาจากเพื่อนคนนึงของผม เขาชอบผู้หญิงคนนึงแล้วผู้หญิงคนนั้นมาทำตัวน่ารักใส่ ก็เลยทำให้เพื่อนผมมีความรู้สึกดีๆ ด้วย อยู่มาวันนึงเพื่อนผมดันไปเห็นผู้หญิงที่มันชอบโดนผู้ชายอีกคนขอเป็นแฟน เหตุการณ์นี้ผมเลยเอามาเขียนในเนื้อเพลงว่า “ไม่รู้ว่าทำไม ว่าฉันไม่เคยเข้าใจ ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร ทำไมมายืนแทนที่ฉัน” มันเลยเกิดเป็นเพลงนี้ขึ้นมา
โปรด : ผมคิดว่าเพลงนี้ค่อนข้างตรงกับความสัมพันธ์ของคนยุคนี้รวมถึงผมด้วย ตอนมอต้นผมเคยชอบผู้หญิงคนนึงเอากีตาร์ไปเล่นให้เขาฟังด้วยนะ แต่อยู่ดีๆ เขาก็ไปขึ้นสถานะคบกับคนอื่น พอตอนที่เพลงปล่อยออกมาแล้วมันแบบ เอ้ย! ตรงกับชีวิตเราจังเลย
เฟรม : ผมว่าด้วยเนื้อหาของเพลงมันที่ออกแนวประชดชีวิตรักคนเลยอินง่าย ความที่เขาไม่ได้รักเราแล้ว เราก็ทิ้งความรักมันไปซะ ทิ้งมันไปเลย ถึงแม้เพลงจะไม่ได้ตรงกับชีวิตผม แต่ผมชอบมากครับ
เรียกได้ว่าทุกซิงเกิลที่ได้ปล่อยออกมาล้วนกลั่นกรองมาจากประสบการณ์จริง แถมทุกเพลงยังถ่ายทอดเรื่องราวความเจ็บปวดออกมาได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่เพียงเรื่องราวของความรักอย่างเดียว ยังเกี่ยวกับสังคมและจิตใจของคนอีกด้วย ซึ่งสมาชิกทั้ง 3 ก็ยอมรับแต่โดยดีว่า “ทุกเพลงที่จะอยู่ในอัลบั้มเต็มชุดแรกในชีวิตของพวกผม จะไม่มีเพลงรักสมหวังอย่างแน่นอน พวกผมอยากเห็นคนไทยน้ำตาแตกครับ” นอกจากอัลบั้มเต็มแล้วแฟนคลับของ Only Monday เตรียมพบกับคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มครั้งแรกของพวกเขา พร้อมเพลงใหม่ๆ ที่เตรียมจะปล่อยออกมาอีกไม่นานเกินรอ
ติดตามความเคลื่อนไหวของ “Only Monday” ได้ที่ : www.facebook.com/OnlyMondayBand และ www.facebook.com/genelabrecords