We want to be a ‘community sipping space’ where anyone whether they work in the field of beverage and food or not can come to learn and share. It could be anyone that wants to learn more about actions that are mindful of the environment and practical in their daily lives. As we continue to educate ourselves about what’s going on with the food system and nature and how others across the world are doing with it as well. Also to change people’s perception of what is waste and how not to turn this planet into a wasteland, because we simply cannot abandon this earth.
WASTELAND เมืองที่สร้างความยั่งยืน ด้วยคุณค่าที่ยังเหลืออยู่
ในยุคนี้ ถือเป็นยุคที่ผู้คนต่างพากันพูดถึงวิถีของการรักโลกมากขึ้น จากสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับธรรมชาติ ทำให้หลายคนเริ่มตระหนัก แล้วก็ต่างหาวิถีทางรักษ์โลกกันไปต่างๆ นาๆ รวมไปถึงที่นี่ก็เช่นกัน “wasteland ดินแดนไร้ขยะ”Wasteland เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่ง ภายใต้หลังคา “โบ.ลาน” ที่เกิดจากแนวคิดรักษ์โลกและอยากจะทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ด้วยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ให้เหลือทิ้งกลายเป็นขยะไปโดยเปล่าประโยชน์
โดยที่นี่ไม่ใช่การเอาของเหลือมาใช้ หากแต่เป็นการคัดเลือกวัตถุดิบจากในครัว โบ.ลาน และ เออ คัดแยกออกมาจากส่วนที่ครัวไม่สามารถนำเอาไปทำอาหารต่อได้ แต่ wasteland ยังใช้ประโยชน์กับมันได้ เช่น ก้านโหระพา ก้านกระเพรา หรือแม้กระทั่งเปลือกมะนาว เป็นต้น โดยวัตถุดิบเหล่านี้มันนำเอาไปทำเป็นกลิ่น เพิ่มรสชาติ หรือจะเป็นในส่วนของการประดับตกแต่งได้อีก เรียกได้ว่ารีดทุกหยดของวัตถุดิบออกมาใช้ได้อย่างแท้จริง ก่อนจะปล่อยมันทำหน้าที่สุดท้ายกลายเป็นปุ๋ย ส่งต่อวัฏจักรสร้างความยั่งยืนต่อไป
ซึ่งวัฏจักรหมุนเวียนนี้ ไม่ใช่แค่ในส่วนของวัตถุดิบที่ใช้ทำเครื่องดื่มเท่านั้น ที่ wasteland ยังแสดงถึงจุดยืนในการรักโลกกับในส่วนของตัวร้าน ด้วยการประดับตกแต่งจากของที่ถูกรื้อทิ้ง แต่ wasteland กลับมองเห็นคุณค่าของมันอยู่ และนำกลับมาใช้ใหม่ทั้งหมดอีกด้วย
นอกจากตัว wasteland ที่ตั้งใจจะช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมแล้ว ที่นี่ยังตั้งใจให้เป็นเหมือนพื้นที่กระจายความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยจริตของที่นี่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่บาร์ หากแต่เรียกตัวเองว่า Community Sipping Space เป็นเสมือนพื้นที่ให้ผู้มาเยือนได้นั่งละเลียดจิบเบาๆ เพื่อให้เข้าถึงรสสัมผัสที่ทางร้านอยากจะสื่อถึง ให้เข้าใจและล่วงรู้ถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ที่ wasteland อยากนำเสนอ และเพื่อเป็นการส่งไม้ต่อให้คนทั่วไปได้ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น
เครื่องดื่มของ wasteland จะมีด้วยกัน 4 Section หนึ่งคือ Finger Print ที่ตั้งไว้เพื่อใช้เรียกแทนคำว่า Signature ก็จะเป็นพื้นที่โชว์ของจากบาร์เทนเดอร์ ทั้ง 3 คน สองก็คือ Classic Waste ส่วนนี้ก็คือเครื่องดื่มที่เป็นคลาสสิค ค็อกเทลต่างๆ ตามยุคสมัย โดยทางร้านจะเสริมส่วนผสมที่เป็น waste แทรกเข้ามาและตั้งชื่อใหม่ โดยการนำเอา W มาแทนอักษรตัวหน้าของแต่ละเมนู สาม Brew & Steep ก็จะเป็นเครื่องดื่มประเภท ชา กาแฟ และส่วนสุดท้ายคือ No-Proof เป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นทางเลือกที่หลากหลายขึ้น
อย่างเช่น เครื่องดื่มตัวแรก
Widori
เป็นเครื่องดื่มใน Section Classic Waste ตัวนี้ไม่ได้บิดอะไรจากเดิมมาก ดัดแปลงมาจากเครื่องดื่มที่ชื่อ Midori แล้วนำเอา waste อย่างเปลือกมะนาวที่เหลือจากการคั้น มาสกัดเอากลิ่นเอาน้ำมันออกมาเพิ่มเติม
Recalling Past Lives
เป็นเครื่องดื่มตัวแรกๆ ใน Section Fingerprint ที่ทำออกมา โดยใช้สุรากลั่นพื้นบ้านชื่อ “บุญมี” บวกกับไวน์ขาว แล้วเสริมด้วยโกฐจุฬา ที่ลักษณะคล้ายผักชีฝรั่ง แต่กลิ่นจะเบากว่าหน่อย แล้วก็มีก้านโหระพาที่ถูกเด็ดใบไปใช้แล้ว เอามาอบแห้งนำไปชงเป็นชา แล้วจึงนำเข้ามาเบลนกับตัวเครื่องดื่ม ทำให้เครื่องดื่มมีความหวาน หอม
Express Solution No.1
เครื่องดื่มที่อินสไปร์มาจาก espresso martini โดยใช้พวกเปลือกเครื่องเทศ ผักสมุนไพร จากในครัว นำไปต้มกับโคล่า เป็นน้ำเชื่อม ผสมกับ Cold Brew ตามด้วยเหล้ารัม แล้วตบท้ายด้วยผิวมะนาวเหมือนเดิม ก็จะมีกลิ่นเปรี้ยวแล้วได้รสสัมผัสเหมือนกาแฟ
ซึ่งเครื่องดื่มในแต่ละ Section นั้นก็จะมีกรรมวิธีและวัตถุดิบที่แตกต่างกันไป แต่พื้นฐานของทั้งหมดก็คือ การนำเอาวัตถุดิบและทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้อย่างคุ้มค่าที่สุดนั่นเอง ทำให้ที่ wasteland นอกจากจะให้คุณค่าของวัตถุดิบและทรัพยากรต่างๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ wasteland ให้คุณค่ากับผู้มาเยือน โดยตั้งใจจะมอบรสชาติที่ดีที่สุดให้ โดยไม่ใช่ว่าเมนูทุกอย่างจะทำมาจากของที่ได้จากในครัวเท่านั้น หากแต่รวมถึงการควบรวมวัตถุดิบจากเครือข่ายเกษตรกรและผู้ผลิตอาหารทำมือต่างๆ ที่มี เพื่อให้เมนูต่างๆ ที่ออกมาจาก wasteland เป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับผู้มาเยือนเมืองแห่งนี้
พิกัด : 24 ซอย สุขุมวิท 53
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.30-15.00 น. และ 17.00-24.00 น.
Map : https://www.theconcert.com/store/5000174